1.เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันกระทรวงการคลังธนาคารกลางเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้นอกระบบดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด โดยจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแก่ประชาชนรายย่อยไปด้วยในเวลาเดียวกัน 2.ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันกระทรวงการคลังธนาคารกลางเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้นอกระบบดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด โดยจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแก่ประชาชนรายย่อยไปด้วยในเวลาเดียวกัน 3.หากมีการค้างชำระหลายครั้ง การชำระคืนที่ค้างชำระค่างงวดที่ค้างชำระจะจัดลำดับความสำคัญ และลำดับการชำระหนี้ของผู้กู้ต้องชำระหนี้ในแต่ละงวดให้ครบ หากมีค่าใช้จ่ายทวนถาม ค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการที่ค้างชำระค่าบริการจะถูกคิดรวมดอกเบี้ยและเงินต้น 4.ข้อมูลในการยื่นเรื่องกู้ยืมสินเชื่อ ผู้ยื่นกู้ต้องกรอกข้อมูลอย่างแม่นยำและต้องตรวจสอบให้ละเอียดและถูกต้อง หากเกิดกรณีผิดพลาดสำหรับข้อมูลผู้ยื่นกู้(กรณีทรัพย์สินของทางบริษัทเสียหายเท่านั้น)ผู้ยื่นกู้จะต้องเป็นฝ่ายแสดงความรับผิดชอบในส่วนของข้อมูลที่กรอกผิดพลาด 5.กรณีผู้ยื่นกู้กรอกข้อมูลบัญชีผิด จะแบ่งเป็น 2 กรณี กรณีที่ 1.กรอกข้อมูลบัญชีผิดแต่ยังไม่ได้มีการถอนหรือโอนจ่ายสินเชื่อ ทางบริษัทสามารถดำเนินการแก้ไขข้อมูลได้ทันที กรณีที่ 2.หากผู้ยื่นกู้ดำเนินการถอนสินเชื่อแล้ว แจ้งบริษัทภายหลังจากการถอน กรณีนี้บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการแก้ไขให้ได้ จะต้องมีการยืนยันตัวตนกับทางบริษัท และ เป็นการเชิญตัวมาที่สำนักงานเพื่อยืนยันตัวตนและแสดงเจตนาของผู้ยื่นกู้(ทางบริษัทไม่รับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทาง) 6.ผู้รับมอบอำนาจตกลงว่าหลังจากการกู้เงินสำเร็จหากผู้มีอำนาจและบุคคลที่สามที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจไม่สามารถคืนเงินไปยังบัญชีบัตรธนาคารที่ได้รับอนุญาตเนื่องจากเหตุผลใด ๆ เช่นธนาคารการชำระเงินของบุคคลที่สามเป็นต้น ผลที่ตามมาจะตกเป็นภาระของผู้มีอำนาจ 7.ผู้รับมอบอำนาจต้องมียอดเงินคงเหลือเพียงพอในบัญชีธนาคารที่กำหนดค่างวดมิฉะนั้นยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอหรือเหตุผลใด ๆ จะทำให้ไม่สามารถหักบัญชีได้ทันเวลามิฉะนั้นการหักเงินผิดพลาดหรือล้มเหลวจะเป็นความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจ 8.หากสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ผู้กู้ยืมไม่สามารถรับเงื่อนไขของ ผู้ให้กู้ยืม และ ไม่ได้ทำการยกเลิกเอกสารสัญญา ส่วนของดอกเบี้ยยังคงถูกคิดทุกๆเดือน ผู้กู้ต้องรับผิดชอบดอกเบี้ยทั้งสิ้น และประวัติค้างกับธนาคารกลางสินเชื่อ ส่งผลต่อประวัติส่วนตัวผู้กู้เองทั้งทางตรงและทางอ้อม 9.หากผู้ให้กู้ของ "สัญญาเงินกู้" แต่ละรายการโอนสิทธิของเจ้าหนี้ภายใต้ "สัญญาเงินกู้" ข้อตกลงและกฎของสินเชื่อที่เกี่ยวข้องความถูกต้องของหนังสือมอบอำนาจนี้จะไม่ได้รับผลกระทบ 10.หลังจากที่ผู้อนุมัติมอบอำนาจให้ผู้มีอำนาจในบัญชีธนาคารที่กำหนด โดยผู้มอบอำนาจถือว่าได้อนุญาตบัตรธนาคารภายในขอบเขตของโครงการเงินกู้ทั้งหมดที่เริ่มโดยผู้อนุมัติผ่านทางแอพพลิเคชั่น การเปลี่ยนบัญชีธนาคารที่ผูกไว้หรือการอนุมัติธนาคารอื่นไม่ถูกต้องหรือมีผลกระทบใดๆ 11.กรณีสำหรับผู้กู้รายใหม่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันก่อนรับสินเชื่อต้องสร้างเครดิตให้ตัวผู้ยื่นกู้โดยเป็นการชำระค่างวดแรกล่วงหน้า 1 งวด จึงจะผ่านเงื่อนไขสำหรับผู้ยื่นกู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนัน 12.หากลูกค้าทำการผิดพลาดลูกค้าจำเป็นต้องทำการแก้ไขโดยทุกการแก้ไขลูกค้าต้องชำระ10-20%ของวงเงินเพื่อทำการแก้ไข ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องใช้หลักฐานการชำระและยอดเงินแทนการยืนยันจากตัวลูกค้าเอง 13.ผู้มอบอำนาจรับประกันความถูกต้องตามกฎหมายและความถูกต้องของหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ และข้อพิพาทหรือความเสี่ยงทางกฎหมายทั้งหมดที่เกิดจากการดำเนินการของผู้มีอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจนี้จะต้องรับผิดชอบหรือแก้ไขอิสระโดยผู้มีอำนาจ 14.ผู้ให้กู้รับความเสี่ยง ฉะนั้น จึงให้ผู้กู้ยืมรายใหม่ซึ่งไม่เคยมีประวัติการกู้ยืมกับทางบริษัททางเรา มีความจำเป็นต้องเช็คสภาพคล่องทางการเงินโดยให้มีการชำระค่างวดล่วงหน้า 1 เดือน และ ตรวจสอบชื่อ-นามสกุลในการชำระงวดล่วงหน้าว่าตรงกับข้อมูลของผู้ขอสินเชื่อ(กรณีลูกค้าใหม่ไม่สามารถหักจากวงเงินกู้ยืมได้) 15.หนังสือมอบอำนาจนี้จะมีผลจากการยืนยันของผู้อนุญาตและจะสิ้นสุดลงเมื่อ "ข้อตกลงการกู้ยืม" และ "ข้อตกลงการให้บริการแอพพลิเคชั่น" ทั้งหมดที่ลงนามโดยผู้อนุญาตผ่านแอพพลิเคชั่นเป็นไปตามเงื่อนไขและการชำระเงินทั้งหมดจะถูกชำระเต็มจำนวน 16.หากลูกค้าทำการกรอกข้อมูลบัญชีผิดพลาด(กรณีถอนสินเชื่อไปแล้วและไม่สามารถเดินทางมาที่บริษัทได้ )ลูกค้าจำเป็นต้องทำการยืนยันตัวตนและวางหลักประกันให้กับทางบริษัท ลูกค้าต้องชำระวางในยอด10 - 20 เปอร์เซ็น ของวงเงินที่ทำการกู้ยืมพร้อมหน้าสมุดบัญชีที่เป็นชื่อของผู้ยื่นกู้ เพื่อทำการยื่นเข้าไปในระบบเพื่อตรวจสอบข้อมูล(ยอดชำระวาง คือ ยอดที่ลูกค้าสามารถเบิกคืนได้) 17.หากลูกค้าทำการผิดพลาดทุกกรณีจำเป็นต้องยื่นขอรหัสถอนใหม่ เพื่อความปลอดภัยของสินเชื่อรหัสถอนมีอายุการใช้งานเพียง 1 การถอนเท่านั้น ซึ่งการยื่นขอรหัสถอนใหม่ต้องชำระวาง 20 - 50 เปอร์เซ็น ของวงเงินกู้ ซึ่งค่าดำเนินการจะขึ้นอยู่กับกรณีนั้นๆ เป็นขั้นตอนสุดท้าย 18.หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น(เฉพาะกรณีทรัยพ์สินของทางบริษัทเสียหายเช่นวงเงินโดนอายัด)ทางผู้ยื่นกู้ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบหรือขาดการติดต่อเกิน3ชั่วโมง ทางบริษัทจะดำเนินคดีตามกฎหมาย หากผู้ยื่นกู้เซ็นรับทราบเท่ากับผู้ยื่นกู้ยอมรับข้อตกลงการกู้ยืมกับทางบริษัท 19.ยอดชำระวางผู้ยื่นกู้สามารถรับคืนได้โดยการถอนผ่านบัญชีสินเชื่อที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น การรับยอดชำระวางคืนต้องเป็นไปตามข้อตกลงที่บริษัทกำหนดไว้ 20.หากผู้ยื่นกู้ดำเนินการผิดพลาดตั้งแต่แรก ทางบริษัทจะมีเวลาให้ดำเนินการแก้ไข้ภายใน7วัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาที่บริษัท หรือ เป็นการแก้ไขผ่านทางออนไลน์ หากเกินกว่าที่ทางบริษัทกำหนด ผู้ยื่นกู้ต้องทำรายการในส่วนของการดำเนินการล่าช้าเพื่อปิดเคสแก้ไขทั้งหมด 21.กรณีวงเงินยื่นกู้เกิน 1 ล้านบาท ต้องมีการทำรายการค้ำประกัน 10% ของวงเงินเป็นไปตามข้อตกลงของทางบริษัท ( ไม่ว่าจะเป็นการยื่นกู้ทางออนไลน์ หรือ ยื่นกู้ทางบริษัท)